วิถีฮุเซน (อ.)
ผู้นำมวลมนุษยชาติท่านที่ 3 ตามแนวทางของชีอะฮ์อิมามียะฮ์ คือ อิมามฮุเซน (อ.) ท่านประสูติในวันที่ 3 เดือนชะอ์บาน ปี ฮ.ศ. ที่ 4 ในเมืองมะดีนะฮ์ ท่านเป็นบุตรคนที่สองของอิมามอะลี (อ.) กับท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) สำหรับบทความต่อไปนี้ผู้เรียบเรียงต้องการจะนำเสนอวิถีชีวิตของอิมามฮุเซน (อ.) เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่าท่านคือผู้นำที่ทรงคุณธรรมเปี่ยมล้นด้วยจริยธรรมอันดีงามที่ได้รับการอบรมอย่างใกล้ชิดจากศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เป็นวิถีชีวิตที่ถอดแบบมาจากท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ผู้เป็นท่านตาอย่างแท้จริง
แล้วท่านผู้อ่านที่เคารพรักโปรดไตร่ตรองดูเถิดว่า ผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและเปี่ยมล้นด้วยความเมตตาเช่นนี้ต้องถูกทารุณกรรม และเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมจากผู้ที่บ้าอำนาจต้องการที่จะครอบครองอาณาจักรอิสลามอย่างไร ?
- ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) เดินผ่านคนยากจนกลุ่มหนึ่งที่ปูสำรับอาหารอยู่ริมทาง พวกเขากล่าวแก่อิมาม (อ.) ว่า : “ โอ้บุตรแห่งศาสนทูต (ศ็อลฯ) เชิญท่านร่วมสำรับอาหารกับคนยากจนอย่างเราเถิด” อิมาม (อ.) รีบตอบรับคำเชิญด้วยการนั่งร่วมสำรับกับพวกเขา แล้วท่าน (อ.) อ่านโองการที่ว่า “แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงรักผู้เย่อหยิ่ง” แล้วท่าน (อ.) กล่าวแก่พวกเขาว่า ในเมื่อฉันตอบรับคำเชิญของพวกท่านแล้ว พวกท่านก็จงตอบรับคำเชิญของฉันเถิด พวกเขากล่าวว่า “ด้วยความยินดียิ่ง โอ้บุตรแห่งศาสนทูต (ศ็อลฯ)” แล้วพวกเขาก็ได้ร่วมเดินทางไปยังบ้านของอิมาม (อ.) เมื่อถึงบ้าน ท่าน (อ.) กล่าวแก่ภรรยาว่า “มีอาหารอะไรก็ให้ยกมาต้อนรับแขกเถิด” (ตัฟซีรอัยยาชี เล่ม 2 หน้า 257)
- ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) ไปเยี่ยมเยียน อุซามะฮ์ บิน เซด เมื่ออุซามะฮ์เห็นอิมาม (อ.) เขาถอนหายใจพรางกล่าวว่า “อืม..ความทุกข์โศก” อิมาม (อ.) ถามว่า “ท่านมีความทุกข์อะไรหรือ ?” เขากล่าวแก่อิมาม (อ.) ว่า “ ฉันมีหนี้สินจำนวนมากถึง 6,000 ดิรฮัม” อิมาม (อ.) ให้กำลังใจแก่เขาว่า “ ท่านไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ฉันจะชดใช้หนี้จำนวนนั้นให้เอง” อุซามะฮ์ กล่าวว่า “ ฉันเกรงว่าความตายจะเป็นเหตุให้ฉันหมดโอกาสเสียก่อน” อิมาม (อ.) กล่าวแก่เขาว่า “ ท่านไม่ต้องกลัวหรอกฉันจะชดใช้หนี้สินทั้งหมดนั้นในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่” นักรายงานฮะดีษ กล่าวว่า อิมาม (อ.) ชดใช้หนี้สินของอุซามะฮ์จนหมดก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
- มีอยู่วันหนึ่งมีชายอาหรับเร่ร่อนคนหนึ่งเดินทางเข้าเมืองมะดีนะฮ์ เพื่อตามหาผู้ที่มีเกียรติที่สุดในเมือง ผู้คนในเมืองต่างกล่าวแก่เขาว่า ผู้ที่มีเกียรติมากที่สุดคือ อิมามฮุเซน (อ.) ชายผู้นั้นเดินเข้ามัสยิดก็เห็นอิมาม (อ.) กำลังทำนมาซอยู่ เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ อิมามแล้วอ่านโคลงที่บอกถึงความต้องการของตนไม่กี่บท เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) นมาซเสร็จแล้วท่านก็เดินทางกลับบ้านแล้วกล่าวแก่กัมบัร ว่า : มีทรัพย์สินของฮิญาซอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง ? เขากล่าวว่า : “มีเหลืออยู่ 4,000 ดีนาร” อิมาม (อ.) กล่าวว่า “จงเอาเงินจำนวนนี้มาเถิด มีคนที่ต้องการและเหมาะสมมากกว่าเรา อิมามแง้มประตูบ้านแล้วมอบเงินจำนวนนั้นแก่อาหรับเร่ร่อน แน่นอนการที่อิมามแง้มประตูก็เพื่อไม่ต้องการให้ชายอาหรับผู้นั้นสบตาอิมามด้วยความละอายใจ ชายอาหรับรับเงินแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดังพรางกล่าวว่า : “ท่านมอบเงินจำนวนน้อยให้แก่ฉันหรืออย่างไร จึงกระทำเช่นนี้ ฉันร้องไห้เพราะมือที่เปี่ยมไปด้วยความสิริมงคลและความเกื้อกูลเช่นนี้จะต้องถูกฝังไปอย่างไร ?”
อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) กล่าวว่า : ฉันได้ยินอิมามฮุเซน (อ.) ผู้เป็นบิดาของฉันกล่าวว่า “ หากมีใครกล่าวไม่ดีต่อฉันจากด้านขวาแล้วขอโทษฉันทางด้านซ้าย ฉันก็จะให้อภัยแก่เขาผู้นั้น เพราะอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี บิน อะบีฏอลิบ ได้รายงานว่า ศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ็อลฯ) ท่านตาของฉันดำรัสว่า : “บุคคใดก็ตามที่ไม่ยอมรับคำขอโทษ ผู้นั้นจะไม่ได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำเกาซัร”
- วันหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) เดินผ่านเด็ก ๆ ที่กำลังกินเศษขนมปังกันอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาเชิญอิมามให้กินเศษขนมปังร่วมกับพวกเขา อิมาม (อ.) ตอบรับคำเชิญพวกเด็ก ๆ ด้วยความยินดีและเปี่ยมด้วยความโอบอ้อมอารีย์ แล้วท่าน (อ.) ก็พาพวกเด็ก ๆ ไปที่บ้านแล้วเลี้ยงอาหารพวกเขาจนอิ่ม อีกทั้งให้เสื้อผ้าใหม่ ๆ แก่พวกเขา ท่าน (อ.) กล่าวว่า : “เด็ก ๆ เหล่านี้มีความเกื้อกูลมากกว่าฉันเสียอีก เพราะพวกเขาได้มอบสิ่งที่เขามีทั้งหมดให้กับฉัน แต่ฉันได้มอบเพียงส่วนหนึ่งจากทรัพย์สินของฉันเท่านั้นเอง”
- คนรับใช้คนหนึ่งของอิมามฮุเซน (อ.) ทำความผิด ซึ่งต้องได้รับโทษ อิมาม (อ.) รับสั่งให้ลงโทษเขา ขณะนั้นเองคนรับใช้ก็กล่าวขึ้นว่า “โอ้นายของข้า แท้จริงแล้วอัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงตรัสว่า “ และบรรดาผู้ที่ระงับโทสะ” (ซูเราะฮ์อาลิอิมรอน โองการที่ 134) อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า “ฉันยกโทษให้เจ้าแล้ว” คนรับใช้อ่านโองการต่ออีกว่า “ และอัลลอฮ์ทรงรักบรรดาผู้ประพฤติความดี” อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า “ฉันปล่อยให้ท่านเป็นอิสระชนเพื่ออัลลอฮ์ (ซบ.) แล้วอิมาม (อ.) ก็รับสั่งให้มอบรางวัลแก่เขาอีกด้วย
- โฮร บิน ยะซีด ริยาฮี ได้นำกองทัพมาปิดล้อมอิมามฮุเซน (อ.) กว่าหนึ่งพันคน ก่อนวันอาชูรอ อิมามฮุเซน (อ.) ก็ตั้งกำลังรับมือการจู่โจม ขณะนั้นเองอิมาม (อ.) เห็นว่าเหล่าทหารของข้าศึกกระหายน้ำ ท่านจึงรับสั่งให้นำน้ำมาให้ม้า อูฐและเหล่าทหารดื่มจนดับกระหาย อะลี บิน ฏออาน มะฮาริบี เล่าว่า : ฉันคือทหารคนสุดท้ายที่มาสมทบ ณ ที่แห่งนั้น ฉันและม้าของฉันกระหายน้ำเป็นอย่างมาก เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) เห็นสภาพของฉัน ท่านจึงรับสั่งให้ฉันทำให้อูฐนอนลงแล้วให้ฉันเอาน้ำให้อูฐกิน จากนั้นท่านได้ยกที่ใส่น้ำให้ฉันดื่มด้วยมือของท่านเอง
- ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งมาหาอิมามฮุเซน (อ.) หลังจากที่กล่าวสลามและเล่าปัญหาต่าง ๆ ของเขาให้อิมามรับฟังแล้ว เขาก็กล่าวว่า โอ้ฮุเซน ฉันได้ยินตาของท่านดำรัสว่า : หากฉันมีความต้องการอะไร ก็จงขอจากสี่ท่านนี้ คือ อาหรับที่มีประเสริฐ , ผู้นำที่มีเกียรติ , ผู้ปกป้องกุรอาน , ใบหน้าที่สง่างาม แน่นอนผู้ที่ประเสริฐที่สุดนั้นคือตาของท่าน (ศ็อลฯ) , ผู้ที่มีเกียรตินั้นก็คือท่าน , กุรอานก็ถูกประทานลงมาในบ้านของพวกท่าน และใบหน้าที่สง่างาม และฉันได้ยินท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ดำรัสอีกว่า : เมื่อไดก็ตามที่ท่านต้องการจะมองใบหน้าของฉัน ท่านก็จงมองใบหน้าของฮะซันและฮุเซนของฉันเถิด หลังจากที่อิมาม (อ.) ฟังชายผู้นั้นพูดจบ ท่านก็กล่าวว่า : ท่านจงพูดถึงความต้องการมาเถิด ชายผู้นั้นก็เอามือเขียนปัญหาของเขาบนพื้นดิน อิมาม (อ.) กล่าวแก่เขาว่า : ฉันได้ยิน อะลี (อ) ผู้เป็นบิดาของฉันกล่าวว่า : คุณค่าของแต่ละคนนั้นอยู่ที่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญและคุณค่า และฉันได้ยินศาสนทูต (ศ็อลฯ) ผู้เป็นท่านตาของฉันดำรัสว่า : การมอบความดีและความรักตามขอบเขตความเข้าใจและการรับรู้ของเขาผู้นั้น ฉันจะถามเจ้าสามคำถาม และฉันจะให้เงินหนึ่งส่วนสามแก่ท่านหากท่านตอบคำถามได้ถูกต้อง หากท่านตอบถูกต้องทั้งสามข้อฉันก็จะมอบเงินทั้งหมดให้แก่ท่าน ชายผู้นั้นกล่าวว่า : ขอให้ท่านถามมาเถิด หากฉันสามารถตอบได้ ฉันก็จะตอบ แต่ถ้าไม่รู้ฉันก็จะเรียนจากท่าน เพราะท่านคือผู้รู้และผู้มีเกียรติยิ่ง ไม่มีอำนาจอื่นใดนอกจากอำนาจของอัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงเกรียงไกร อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า : การกระทำใดที่ประเสริฐที่สุด ? เขาตอบว่า การมีศรัทธาต่ออัลลอฮ์และการยอมรับศาสนทูตของพระองค์ อิมาม (อ.) กล่าวว่า : อะไรคือทางรอดพ้นสำหรับปวงบ่าว ? เขาตอบว่า : คือความเชื่อมั่นและการมอบหมายต่อพระองค์ อิมาม (อ.) ถามต่ออีกว่า : สิ่งใดที่ทำให้มนุษย์สวยงาม เขาตอบว่า : ความรู้ที่ควบคู่กับความอดทน อิมามถามต่ออีกว่า : หากผู้นั้นไม่มีความอดทนเล่า ? เขาตอบว่า: ไฟจากฟากฟ้าจงลงมาเผาไหม้เขาเถิด อิมาม (อ.) หัวเราะพร้อมมอบถุงเงินจำนวน 1,000ดิรฮัมทองคำ แล้วถอดแหวนราคาสองดิรฮัมของท่านเป็นของขวัญให้แก่เขา แล้วกล่าวว่า : จงนำเงินจำนวน 1,000 ดิรฮัมนี้ไปใช้จ่ายเรื่องปัญหาของท่าน และนำแหวนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายแก่ครอบครัวของท่าน ชายผู้นั้นรับของอิมาม (อ.) แล้วกล่าวว่า : อัลลอฮ์ทรงรู้ยิ่งว่าจะทำกับสาส์นของพระองค์เช่นไร
- ครั้งหนึ่งอิมามฮะซัน (อ.) เดินหลงทางในยามค่ำคืน แล้วไปเจอคนเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ท่านก็ได้เป็นแขกชายเลี้ยงแกะซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเขาจนถึงเช้า เขาก็ได้บอกทางแก่อิมาม (อ.) ท่านอิมามฮะซัน (อ.) กล่าวว่า : ท่านไปเมืองมะดีนะฮ์ซิ เพื่อว่าฉันจะได้ตอบแทนความรักที่ท่านมีให้นี้ ซึ่งต่อมาชายเลี้ยงแกะได้เดินทางมาเมืองมะดีนะฮ์กับนายของเขา เมื่อเดินทางมาถึงตัวเมือง ขณะนั้นอิมามฮะซัน (อ.) มีภารกิจอยู่นอกเมือง ชายเลี้ยงแกะเข้าไปหาอิมามฮุเซน (อ.) โดยคิดว่าท่านคือแขกที่เคยอยู่บ้านเขา เขาจึงกล่าวกับอิมามฮุเซน (อ.) ท่านคือแขกที่เคยอยู่บ้านฉันและสัญญาว่าให้เดินทางมาเมืองมะดีนะฮ์เพื่อจะได้ตอบแทน อิมามฮุเซน (อ.) รู้ว่าชายผู้นั้นจำผิดคน แต่อิมาม (อ.) ก็ไม่ได้พูดอะไร ท่านถามว่า เจ้าเป็นทาสของใครหรือ ? เขากล่าวว่าเป็นทาสของคนนั้น อิมาม (อ.) กล่าวอีกว่าท่านมีแกะอยู่กี่ตัว ? เขากล่าวว่า : 300 ตัว อิมาม (อ.) ส่งคนตามหานายของเขาเพื่อคะยั้นคะยอให้เขาขายแกะทั้งหมด จนนายผู้นั้นยินยอม แล้วอิมาม (อ.) ก็ปล่อยให้ทาสผู้นั้นเป็นอิสรชน แล้วมอบแกะทั้งหมดให้เขา แล้วท่านก็กล่าวว่า : นี่คือการตอบแทนที่ท่านได้มอบความรักแก่อิมามฮะซัน (อ.) พี่ชายของฉัน ในค่ำคืนนั้น
- ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) พร้อมสาวกจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังสวนนอกเมืองมะดีนะฮ์ ซึ่งเป็นสวนของท่าน ซึ่งมีผู้ดูแลสวนแห่งนั้นคนหนึ่งชื่อว่า ศอฟ ขณะที่อิมาม (อ.) เดินเข้ามาในสวนก็เห็นผู้ดูแลสวนคนนั้นกำลังกินขนมปังอยู่ อิมาม (อ.) จึงแอบยืนดูอยู่หลังต้นไม้ ท่านแปลกใจว่าทำไมทาสผู้นี้จึงกินขนมปังคำหนึ่งและอีกคำหนึ่งก็ให้สุนัขที่อยู่ข้าง ๆ กินด้วย เมื่อทาสคนนั้นกินขนมปังเสร็จเขาก็กล่าวว่า มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่อัลลอฮ์ (ซบ.) ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ ทรงอภัยโทษแก่นายของข้าพระองค์ ทางประสาทพรแก่เขา เหมือนดังที่เคยประสาทพรแก่บิดามารดาของเขามาแล้ว ด้วยความเมตตาของพระองค์ โอ้ผู้ทรงเมตตายิ่ง อิมามฮุเซน (อ.) จีงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ ทาสผู้นั้นตกใจพร้อมกล่าวว่า : โอ้นายของข้าและนายของปวงศรัทธาชน ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่เห็นท่าน อิมาม (อ.) กล่าวว่า : โอ้ศอฟี เจ้าจงฮะล้าลให้แก่ฉันด้วยที่เดินเข้าสวนของเจ้ามาโดยไม่ได้อนุญาต เขากล่าวว่า : ท่านกล่าวเช่นนี้เพราะความยิ่งใหญ่และเกียรติของท่าน อิมาม (อ.) กล่าวว่า : ฉันเห็นท่านแบ่งอาหารออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน โดยท่านกินส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งท่านแบ่งให้สุนัขกิน ท่านทำเช่นนี้ทำไมหรือ ? ทาสผู้นั้นกล่าว่า : สุนัขตัวนี้มองข้าในขณะที่ข้ากำลังกิน ฉันจึงเกิดความละอายที่จะไม่ให้อาหารแก่มัน โอ้ ฮุเซน สุนัขตัวนี้ก็เป็นสุนัขเฝ้าสวน ฉันก็เป็นทาสคนหนึ่งของท่าน ฉันและสุนัขต่างก็ได้รับปัจจัยยังชีพและความเกื้อกูลจากท่าน เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) ได้ยินเช่นนั้นท่านถึงกับร้องไห้ออกมา และกล่าวว่า : ฉันปล่อยให้ท่านเป็นอิสระชน และขอมอบเงินจำนวน 1, 000 ดีนารให้แก่ท่านด้วยความจริงใจ ซอฟีกล่าวกับอิมาม (อ.) ว่า : เมื่อท่านปล่อยให้ฉันเป็นอิสระชนแล้วฉันไม่ขอออกไปจากบ้านของท่าน ฉันขอเป็นผู้รับใช้ท่านต่อไป
อิมาม (อ.) : เป็นสิ่งคู่ควรที่บุรุษตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ เมื่อตอนที่ฉันเดินมาในสวน ฉันกล่าวว่า “ฉันเดินเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อน ดังนั้นฉันต้องทำตามที่ฉันพูด ฉันขอมอบสวนนี้ให้แก่ท่านแต่มีข้อแม้ว่าขอให้ท่านอนุญาตให้สาวกของฉันที่ท่านเห็นอยู่นี้กินผลไม้เหล่านี้ ท่านจงเกื้อกูลพวกเขาเพื่อว่าอัลลอฮ์ (ซบ.) จะได้เกื้อกูลท่านในวันกิยามะฮ์
ครั้งนี้หนึ่งอิซอม บิน มุศฏอลัก ชาวเมืองชาม เล่าว่า : ขณะที่ฉันเดินเข้าเมืองมะดีนะฮ์ ฉันเหลือบไปเห็นความสง่างามของ ฮุเซน บิน อะลี (อ.) ความสง่างามของท่านทำให้ฉันเกิดความอิจฉา จนทำให้ฉันแสดงความชังและความเป็นศัตรูต่ออะลี บิน อะบีฏอลิบ ออกมา ฉันเดินไปใกล้ ๆ ท่านแล้วกล่าวกับท่านเบา ๆ ว่า : โอ้ลูกอะบูตุรอบ อิมาม (อ.) กล่าวว่า : ใช่แล้ว อิซอมกล่าวต่ออีกว่าฉันก็เริ่มกล่าวไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ ต่ออะลี บิน อะบีฏอลิบ อิมาม (อ.) กลับมองฉันด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา แล้วอ่านโองการว่า : “เจ้าจงยึดถือไว้ซึ่งการอภัยและจงใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และจงผินหลัง ให้แก่ผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด” แล้วท่านกล่าวต่ออีกว่า : ท่านจงปฏิบัติต่อฉันอย่างนุ่มนวลเถิด และจงขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ (ซบ.) หากท่านมีอะไรให้เราช่วยเหลือ เราก็จะให้ความช่วยเหลือแก่ท่าน หากท่านต้องการสิ่งใดเราก็จะให้แก่ท่าน หากต้องการการชี้นำเราก็จะชี้นำท่าน
อิซอม กล่าวว่า : ฉันเกิดความละอายและเสียใจจากคำพูดหยาบคายของฉัน ฉันละอายจนแทบจะมุดลงใต้แผ่นดิน หลังจากนั้นมาไม่มีใครที่เป็นที่รักยิ่งสำหรับฉันมากไปกว่า ฮุเซน บิน อะลี และ อะลี บิน อะบีฏอลิบ (อ.)