วิถี “ฮุเซน” (อ)

In อะฮ์ลุลบัยต์

วิถีฮุเซน (อ.) 

ผู้นำมวลมนุษยชาติท่านที่ 3 ตามแนวทางของชีอะฮ์อิมามียะฮ์ คือ อิมามฮุเซน (อ.)  ท่านประสูติในวันที่ 3 เดือนชะอ์บาน ปี ฮ.ศ. ที่ 4 ในเมืองมะดีนะฮ์ ท่านเป็นบุตรคนที่สองของอิมามอะลี (อ.) กับท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) สำหรับบทความต่อไปนี้ผู้เรียบเรียงต้องการจะนำเสนอวิถีชีวิตของอิมามฮุเซน (อ.) เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่าท่านคือผู้นำที่ทรงคุณธรรมเปี่ยมล้นด้วยจริยธรรมอันดีงามที่ได้รับการอบรมอย่างใกล้ชิดจากศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เป็นวิถีชีวิตที่ถอดแบบมาจากท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ผู้เป็นท่านตาอย่างแท้จริง

แล้วท่านผู้อ่านที่เคารพรักโปรดไตร่ตรองดูเถิดว่า ผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและเปี่ยมล้นด้วยความเมตตาเช่นนี้ต้องถูกทารุณกรรม และเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมจากผู้ที่บ้าอำนาจต้องการที่จะครอบครองอาณาจักรอิสลามอย่างไร ? 

  • ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) เดินผ่านคนยากจนกลุ่มหนึ่งที่ปูสำรับอาหารอยู่ริมทาง พวกเขากล่าวแก่อิมาม (อ.) ว่า : “ โอ้บุตรแห่งศาสนทูต (ศ็อลฯ) เชิญท่านร่วมสำรับอาหารกับคนยากจนอย่างเราเถิด” อิมาม (อ.) รีบตอบรับคำเชิญด้วยการนั่งร่วมสำรับกับพวกเขา แล้วท่าน (อ.) อ่านโองการที่ว่า “แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงรักผู้เย่อหยิ่ง” แล้วท่าน (อ.) กล่าวแก่พวกเขาว่า ในเมื่อฉันตอบรับคำเชิญของพวกท่านแล้ว พวกท่านก็จงตอบรับคำเชิญของฉันเถิด พวกเขากล่าวว่า “ด้วยความยินดียิ่ง โอ้บุตรแห่งศาสนทูต (ศ็อลฯ)”  แล้วพวกเขาก็ได้ร่วมเดินทางไปยังบ้านของอิมาม (อ.) เมื่อถึงบ้าน ท่าน (อ.) กล่าวแก่ภรรยาว่า “มีอาหารอะไรก็ให้ยกมาต้อนรับแขกเถิด” (ตัฟซีรอัยยาชี เล่ม 2 หน้า 257)
  • ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) ไปเยี่ยมเยียน อุซามะฮ์ บิน เซด เมื่ออุซามะฮ์เห็นอิมาม (อ.) เขาถอนหายใจพรางกล่าวว่า “อืม..ความทุกข์โศก” อิมาม (อ.) ถามว่า “ท่านมีความทุกข์อะไรหรือ ?”  เขากล่าวแก่อิมาม (อ.) ว่า “ ฉันมีหนี้สินจำนวนมากถึง 6,000 ดิรฮัม” อิมาม (อ.) ให้กำลังใจแก่เขาว่า “ ท่านไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ฉันจะชดใช้หนี้จำนวนนั้นให้เอง”  อุซามะฮ์ กล่าวว่า “ ฉันเกรงว่าความตายจะเป็นเหตุให้ฉันหมดโอกาสเสียก่อน”  อิมาม (อ.) กล่าวแก่เขาว่า “ ท่านไม่ต้องกลัวหรอกฉันจะชดใช้หนี้สินทั้งหมดนั้นในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่” นักรายงานฮะดีษ กล่าวว่า อิมาม (อ.) ชดใช้หนี้สินของอุซามะฮ์จนหมดก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
  • มีอยู่วันหนึ่งมีชายอาหรับเร่ร่อนคนหนึ่งเดินทางเข้าเมืองมะดีนะฮ์ เพื่อตามหาผู้ที่มีเกียรติที่สุดในเมือง ผู้คนในเมืองต่างกล่าวแก่เขาว่า ผู้ที่มีเกียรติมากที่สุดคือ อิมามฮุเซน (อ.) ชายผู้นั้นเดินเข้ามัสยิดก็เห็นอิมาม (อ.) กำลังทำนมาซอยู่ เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ อิมามแล้วอ่านโคลงที่บอกถึงความต้องการของตนไม่กี่บท เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) นมาซเสร็จแล้วท่านก็เดินทางกลับบ้านแล้วกล่าวแก่กัมบัร ว่า : มีทรัพย์สินของฮิญาซอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง ?  เขากล่าวว่า : “มีเหลืออยู่ 4,000 ดีนาร” อิมาม (อ.) กล่าวว่า “จงเอาเงินจำนวนนี้มาเถิด มีคนที่ต้องการและเหมาะสมมากกว่าเรา อิมามแง้มประตูบ้านแล้วมอบเงินจำนวนนั้นแก่อาหรับเร่ร่อน แน่นอนการที่อิมามแง้มประตูก็เพื่อไม่ต้องการให้ชายอาหรับผู้นั้นสบตาอิมามด้วยความละอายใจ ชายอาหรับรับเงินแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดังพรางกล่าวว่า : “ท่านมอบเงินจำนวนน้อยให้แก่ฉันหรืออย่างไร จึงกระทำเช่นนี้ ฉันร้องไห้เพราะมือที่เปี่ยมไปด้วยความสิริมงคลและความเกื้อกูลเช่นนี้จะต้องถูกฝังไปอย่างไร ?”

อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) กล่าวว่า : ฉันได้ยินอิมามฮุเซน (อ.) ผู้เป็นบิดาของฉันกล่าวว่า  “ หากมีใครกล่าวไม่ดีต่อฉันจากด้านขวาแล้วขอโทษฉันทางด้านซ้าย ฉันก็จะให้อภัยแก่เขาผู้นั้น เพราะอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี บิน อะบีฏอลิบ ได้รายงานว่า ศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ็อลฯ) ท่านตาของฉันดำรัสว่า : “บุคคใดก็ตามที่ไม่ยอมรับคำขอโทษ ผู้นั้นจะไม่ได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำเกาซัร”

  • วันหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) เดินผ่านเด็ก ๆ ที่กำลังกินเศษขนมปังกันอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาเชิญอิมามให้กินเศษขนมปังร่วมกับพวกเขา อิมาม (อ.) ตอบรับคำเชิญพวกเด็ก ๆ  ด้วยความยินดีและเปี่ยมด้วยความโอบอ้อมอารีย์ แล้วท่าน (อ.) ก็พาพวกเด็ก ๆ ไปที่บ้านแล้วเลี้ยงอาหารพวกเขาจนอิ่ม อีกทั้งให้เสื้อผ้าใหม่ ๆ แก่พวกเขา  ท่าน (อ.) กล่าวว่า : “เด็ก ๆ เหล่านี้มีความเกื้อกูลมากกว่าฉันเสียอีก เพราะพวกเขาได้มอบสิ่งที่เขามีทั้งหมดให้กับฉัน แต่ฉันได้มอบเพียงส่วนหนึ่งจากทรัพย์สินของฉันเท่านั้นเอง”
  • คนรับใช้คนหนึ่งของอิมามฮุเซน (อ.) ทำความผิด ซึ่งต้องได้รับโทษ อิมาม (อ.) รับสั่งให้ลงโทษเขา  ขณะนั้นเองคนรับใช้ก็กล่าวขึ้นว่า “โอ้นายของข้า แท้จริงแล้วอัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงตรัสว่า “ และบรรดาผู้ที่ระงับโทสะ” (ซูเราะฮ์อาลิอิมรอน โองการที่ 134) อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า  “ฉันยกโทษให้เจ้าแล้ว” คนรับใช้อ่านโองการต่ออีกว่า “ และอัลลอฮ์ทรงรักบรรดาผู้ประพฤติความดี” อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า “ฉันปล่อยให้ท่านเป็นอิสระชนเพื่ออัลลอฮ์ (ซบ.)  แล้วอิมาม (อ.) ก็รับสั่งให้มอบรางวัลแก่เขาอีกด้วย
  • โฮร บิน ยะซีด ริยาฮี ได้นำกองทัพมาปิดล้อมอิมามฮุเซน (อ.) กว่าหนึ่งพันคน ก่อนวันอาชูรอ อิมามฮุเซน (อ.) ก็ตั้งกำลังรับมือการจู่โจม ขณะนั้นเองอิมาม (อ.) เห็นว่าเหล่าทหารของข้าศึกกระหายน้ำ ท่านจึงรับสั่งให้นำน้ำมาให้ม้า อูฐและเหล่าทหารดื่มจนดับกระหาย อะลี บิน ฏออาน มะฮาริบี เล่าว่า : ฉันคือทหารคนสุดท้ายที่มาสมทบ ณ ที่แห่งนั้น ฉันและม้าของฉันกระหายน้ำเป็นอย่างมาก  เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) เห็นสภาพของฉัน ท่านจึงรับสั่งให้ฉันทำให้อูฐนอนลงแล้วให้ฉันเอาน้ำให้อูฐกิน จากนั้นท่านได้ยกที่ใส่น้ำให้ฉันดื่มด้วยมือของท่านเอง
  • ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งมาหาอิมามฮุเซน (อ.) หลังจากที่กล่าวสลามและเล่าปัญหาต่าง ๆ ของเขาให้อิมามรับฟังแล้ว เขาก็กล่าวว่า โอ้ฮุเซน ฉันได้ยินตาของท่านดำรัสว่า : หากฉันมีความต้องการอะไร ก็จงขอจากสี่ท่านนี้ คือ อาหรับที่มีประเสริฐ , ผู้นำที่มีเกียรติ , ผู้ปกป้องกุรอาน , ใบหน้าที่สง่างาม แน่นอนผู้ที่ประเสริฐที่สุดนั้นคือตาของท่าน (ศ็อลฯ) , ผู้ที่มีเกียรตินั้นก็คือท่าน , กุรอานก็ถูกประทานลงมาในบ้านของพวกท่าน และใบหน้าที่สง่างาม และฉันได้ยินท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ดำรัสอีกว่า : เมื่อไดก็ตามที่ท่านต้องการจะมองใบหน้าของฉัน ท่านก็จงมองใบหน้าของฮะซันและฮุเซนของฉันเถิด หลังจากที่อิมาม (อ.) ฟังชายผู้นั้นพูดจบ ท่านก็กล่าวว่า : ท่านจงพูดถึงความต้องการมาเถิด ชายผู้นั้นก็เอามือเขียนปัญหาของเขาบนพื้นดิน อิมาม (อ.) กล่าวแก่เขาว่า : ฉันได้ยิน อะลี (อ) ผู้เป็นบิดาของฉันกล่าวว่า : คุณค่าของแต่ละคนนั้นอยู่ที่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญและคุณค่า และฉันได้ยินศาสนทูต (ศ็อลฯ) ผู้เป็นท่านตาของฉันดำรัสว่า : การมอบความดีและความรักตามขอบเขตความเข้าใจและการรับรู้ของเขาผู้นั้น ฉันจะถามเจ้าสามคำถาม และฉันจะให้เงินหนึ่งส่วนสามแก่ท่านหากท่านตอบคำถามได้ถูกต้อง หากท่านตอบถูกต้องทั้งสามข้อฉันก็จะมอบเงินทั้งหมดให้แก่ท่าน ชายผู้นั้นกล่าวว่า : ขอให้ท่านถามมาเถิด หากฉันสามารถตอบได้ ฉันก็จะตอบ แต่ถ้าไม่รู้ฉันก็จะเรียนจากท่าน เพราะท่านคือผู้รู้และผู้มีเกียรติยิ่ง ไม่มีอำนาจอื่นใดนอกจากอำนาจของอัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงเกรียงไกร อิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า : การกระทำใดที่ประเสริฐที่สุด ?  เขาตอบว่า การมีศรัทธาต่ออัลลอฮ์และการยอมรับศาสนทูตของพระองค์ อิมาม (อ.) กล่าวว่า : อะไรคือทางรอดพ้นสำหรับปวงบ่าว ? เขาตอบว่า : คือความเชื่อมั่นและการมอบหมายต่อพระองค์ อิมาม (อ.) ถามต่ออีกว่า : สิ่งใดที่ทำให้มนุษย์สวยงาม เขาตอบว่า : ความรู้ที่ควบคู่กับความอดทน อิมามถามต่ออีกว่า : หากผู้นั้นไม่มีความอดทนเล่า ? เขาตอบว่า: ไฟจากฟากฟ้าจงลงมาเผาไหม้เขาเถิด อิมาม (อ.) หัวเราะพร้อมมอบถุงเงินจำนวน 1,000ดิรฮัมทองคำ แล้วถอดแหวนราคาสองดิรฮัมของท่านเป็นของขวัญให้แก่เขา แล้วกล่าวว่า : จงนำเงินจำนวน 1,000 ดิรฮัมนี้ไปใช้จ่ายเรื่องปัญหาของท่าน และนำแหวนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายแก่ครอบครัวของท่าน ชายผู้นั้นรับของอิมาม (อ.) แล้วกล่าวว่า : อัลลอฮ์ทรงรู้ยิ่งว่าจะทำกับสาส์นของพระองค์เช่นไร
  • ครั้งหนึ่งอิมามฮะซัน (อ.) เดินหลงทางในยามค่ำคืน แล้วไปเจอคนเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ท่านก็ได้เป็นแขกชายเลี้ยงแกะซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเขาจนถึงเช้า เขาก็ได้บอกทางแก่อิมาม (อ.)  ท่านอิมามฮะซัน (อ.) กล่าวว่า : ท่านไปเมืองมะดีนะฮ์ซิ เพื่อว่าฉันจะได้ตอบแทนความรักที่ท่านมีให้นี้ ซึ่งต่อมาชายเลี้ยงแกะได้เดินทางมาเมืองมะดีนะฮ์กับนายของเขา เมื่อเดินทางมาถึงตัวเมือง ขณะนั้นอิมามฮะซัน (อ.) มีภารกิจอยู่นอกเมือง ชายเลี้ยงแกะเข้าไปหาอิมามฮุเซน (อ.) โดยคิดว่าท่านคือแขกที่เคยอยู่บ้านเขา เขาจึงกล่าวกับอิมามฮุเซน (อ.) ท่านคือแขกที่เคยอยู่บ้านฉันและสัญญาว่าให้เดินทางมาเมืองมะดีนะฮ์เพื่อจะได้ตอบแทน อิมามฮุเซน (อ.) รู้ว่าชายผู้นั้นจำผิดคน แต่อิมาม (อ.) ก็ไม่ได้พูดอะไร ท่านถามว่า เจ้าเป็นทาสของใครหรือ ? เขากล่าวว่าเป็นทาสของคนนั้น อิมาม (อ.) กล่าวอีกว่าท่านมีแกะอยู่กี่ตัว ? เขากล่าวว่า : 300 ตัว  อิมาม (อ.) ส่งคนตามหานายของเขาเพื่อคะยั้นคะยอให้เขาขายแกะทั้งหมด จนนายผู้นั้นยินยอม แล้วอิมาม (อ.) ก็ปล่อยให้ทาสผู้นั้นเป็นอิสรชน แล้วมอบแกะทั้งหมดให้เขา แล้วท่านก็กล่าวว่า : นี่คือการตอบแทนที่ท่านได้มอบความรักแก่อิมามฮะซัน (อ.) พี่ชายของฉัน ในค่ำคืนนั้น
  • ครั้งหนึ่งอิมามฮุเซน (อ.) พร้อมสาวกจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังสวนนอกเมืองมะดีนะฮ์ ซึ่งเป็นสวนของท่าน ซึ่งมีผู้ดูแลสวนแห่งนั้นคนหนึ่งชื่อว่า ศอฟ  ขณะที่อิมาม (อ.) เดินเข้ามาในสวนก็เห็นผู้ดูแลสวนคนนั้นกำลังกินขนมปังอยู่ อิมาม (อ.) จึงแอบยืนดูอยู่หลังต้นไม้ ท่านแปลกใจว่าทำไมทาสผู้นี้จึงกินขนมปังคำหนึ่งและอีกคำหนึ่งก็ให้สุนัขที่อยู่ข้าง ๆ กินด้วย เมื่อทาสคนนั้นกินขนมปังเสร็จเขาก็กล่าวว่า มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่อัลลอฮ์ (ซบ.)  ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ ทรงอภัยโทษแก่นายของข้าพระองค์ ทางประสาทพรแก่เขา เหมือนดังที่เคยประสาทพรแก่บิดามารดาของเขามาแล้ว ด้วยความเมตตาของพระองค์ โอ้ผู้ทรงเมตตายิ่ง อิมามฮุเซน (อ.) จีงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ ทาสผู้นั้นตกใจพร้อมกล่าวว่า : โอ้นายของข้าและนายของปวงศรัทธาชน ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่เห็นท่าน อิมาม (อ.) กล่าวว่า : โอ้ศอฟี เจ้าจงฮะล้าลให้แก่ฉันด้วยที่เดินเข้าสวนของเจ้ามาโดยไม่ได้อนุญาต เขากล่าวว่า : ท่านกล่าวเช่นนี้เพราะความยิ่งใหญ่และเกียรติของท่าน อิมาม (อ.) กล่าวว่า : ฉันเห็นท่านแบ่งอาหารออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน โดยท่านกินส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งท่านแบ่งให้สุนัขกิน ท่านทำเช่นนี้ทำไมหรือ ?  ทาสผู้นั้นกล่าว่า : สุนัขตัวนี้มองข้าในขณะที่ข้ากำลังกิน ฉันจึงเกิดความละอายที่จะไม่ให้อาหารแก่มัน โอ้ ฮุเซน สุนัขตัวนี้ก็เป็นสุนัขเฝ้าสวน ฉันก็เป็นทาสคนหนึ่งของท่าน ฉันและสุนัขต่างก็ได้รับปัจจัยยังชีพและความเกื้อกูลจากท่าน เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) ได้ยินเช่นนั้นท่านถึงกับร้องไห้ออกมา และกล่าวว่า : ฉันปล่อยให้ท่านเป็นอิสระชน และขอมอบเงินจำนวน 1, 000 ดีนารให้แก่ท่านด้วยความจริงใจ ซอฟีกล่าวกับอิมาม (อ.) ว่า : เมื่อท่านปล่อยให้ฉันเป็นอิสระชนแล้วฉันไม่ขอออกไปจากบ้านของท่าน ฉันขอเป็นผู้รับใช้ท่านต่อไป

อิมาม (อ.) : เป็นสิ่งคู่ควรที่บุรุษตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ เมื่อตอนที่ฉันเดินมาในสวน ฉันกล่าวว่า “ฉันเดินเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านก่อน ดังนั้นฉันต้องทำตามที่ฉันพูด ฉันขอมอบสวนนี้ให้แก่ท่านแต่มีข้อแม้ว่าขอให้ท่านอนุญาตให้สาวกของฉันที่ท่านเห็นอยู่นี้กินผลไม้เหล่านี้ ท่านจงเกื้อกูลพวกเขาเพื่อว่าอัลลอฮ์ (ซบ.) จะได้เกื้อกูลท่านในวันกิยามะฮ์

ครั้งนี้หนึ่งอิซอม บิน มุศฏอลัก ชาวเมืองชาม เล่าว่า : ขณะที่ฉันเดินเข้าเมืองมะดีนะฮ์ ฉันเหลือบไปเห็นความสง่างามของ ฮุเซน บิน อะลี (อ.) ความสง่างามของท่านทำให้ฉันเกิดความอิจฉา จนทำให้ฉันแสดงความชังและความเป็นศัตรูต่ออะลี บิน อะบีฏอลิบ ออกมา ฉันเดินไปใกล้ ๆ ท่านแล้วกล่าวกับท่านเบา ๆ ว่า : โอ้ลูกอะบูตุรอบ อิมาม (อ.) กล่าวว่า : ใช่แล้ว อิซอมกล่าวต่ออีกว่าฉันก็เริ่มกล่าวไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ ต่ออะลี บิน อะบีฏอลิบ  อิมาม (อ.) กลับมองฉันด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา แล้วอ่านโองการว่า :  “เจ้าจงยึดถือไว้ซึ่งการอภัยและจงใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และจงผินหลัง ให้แก่ผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด” แล้วท่านกล่าวต่ออีกว่า : ท่านจงปฏิบัติต่อฉันอย่างนุ่มนวลเถิด และจงขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ (ซบ.) หากท่านมีอะไรให้เราช่วยเหลือ เราก็จะให้ความช่วยเหลือแก่ท่าน หากท่านต้องการสิ่งใดเราก็จะให้แก่ท่าน หากต้องการการชี้นำเราก็จะชี้นำท่าน

อิซอม กล่าวว่า : ฉันเกิดความละอายและเสียใจจากคำพูดหยาบคายของฉัน ฉันละอายจนแทบจะมุดลงใต้แผ่นดิน หลังจากนั้นมาไม่มีใครที่เป็นที่รักยิ่งสำหรับฉันมากไปกว่า ฮุเซน บิน อะลี และ อะลี บิน อะบีฏอลิบ (อ.) 

 

You may also read!

ความรู้ที่แท้จริง

รายงานจากท่านอิมามมูซากาซิมว่า เมื่อท่านศาสนทูตเดินเข้ามัสยิดเห็นคนกำลังนั่งล้อมชายคนหนึ่งอยู่ ท่านศาสนทูตถามพวกเขาว่า เกิดอะไรขึ้นหรือ พวกเขากล่าวตอบว่า ชายคนนี้คือ อัลลามะฮ์ ท่านศาสนทูตกล่าวถามว่า อัลลามะฮ์ คืออะไร ? บรรดาสาวกกล่าวตอบว่า เขาคือผู้รู้มากที่สุดในเรื่องเชื้อสายของชนชาวอาหรับ รู้ความเป็นมาของคนอาหรับในสมัยญาฮิลียะฮ์อีกทั้งรู้เรื่องบทกวีของชาวอาหรับเป็นอย่างดีด้วย ท่านศาสดามุฮัมมัดกล่าวว่า เหล่านี้คือศาสตร์ที่ไม่ได้ทำให้ผู้ไม่รู้เสียประโยชน์แต่อย่างใด หลังจากนั้นท่านศาสดากล่าวต่อว่า แท้จริงความรู้มีสามสิ่งด้วยกัน รู้โองการที่ชัดแจ้ง

Read More...

 อิมามอาลีกับความสมถะ

ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวกับท่านอิมามอะลีว่า (more…)

Read More...

คนมีปมด้อย

อิมาม ซอดิก (อ) กล่าวว่า ما مِنْ رَجُل تَجَبَّرَ أَؤ تَکَبَّرَ إلاّ لِذِلَّه یَجِدُها قِی نَفْسِهِ “ไม่มีคนใดที่แสดงความโอ้อวดและแสดงตนเหนือผู้อื่น นอกเสียจากว่าเขาพบปมด้อยที่มีในตัวของเขาเอง คำอธิบาย  มีผลสำรวจและคำยืนยันจากนักจิตวิทยาว่า ต้นตอของการโอ้อวดและการยกตนเหนือกว่าผู้อื่นมาจากปมด้อย  เป็นปมด้อยที่ผู้ที่ประสพกับปัญหาทางจิตนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน  เพื่อเป็นการชดเชยและปกปิดปมด้อยของตัวเองจึงแสดงตนว่าเหนือกว่าผู้อื่นซึ่งถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจยิ่ง 

Read More...

Leave a reply:

Your email address will not be published.

Mobile Sliding Menu