บทความ “สถาปนิกของระเบียบใหม่” ในฉบับที่ 752 ของ “วิทริน ทัศนีม”
ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของอิสราเอลในการสร้างระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง โดยใช้วิธีการลอบสังหารผู้นำกลุ่มต่อต้าน เช่น ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ และอิสมาอีล ฮะนี้ยะห์ ซึ่งกลุ่มต่อต้านเหล่านี้ถือเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของอิสราเอล
ในการควบคุมภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ “คำสัญญาที่เป็นจริง 2” จากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอิสราเอลประสบความล้มเหลวในการสร้างระเบียบใหม่ดังกล่าว ซึ่งการวิเคราะห์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์และความล้มเหลวของอิสราเอลในระดับภูมิภาค
ความพยายามของอิสราเอลและวิกฤตทางยุทธศาสตร์
อิสราเอลได้พยายามใช้เครื่องมือทางการทหารและการลอบสังหารเพื่อทำให้กลุ่มต่อต้านในตะวันออกกลางอ่อนแอลง โดยเฉพาะการโจมตีต่อผู้นำของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนและฮามาสในปาเลสไตน์ กลยุทธ์นี้ถูกวางแผนเพื่อให้กลุ่มต่อต้านหมดพลังในการท้าทายการขยายอิทธิพลของอิสราเอลในภูมิภาค และเพื่อก่อให้เกิดระเบียบใหม่ที่สนับสนุนอิสราเอล แต่ความคิดเชิงยุทธศาสตร์นี้ได้แสดงให้เห็นข้อบกพร่องที่สำคัญในเชิงปฏิบัติ เนื่องจากการโจมตีแบบกำจัดบุคคลสำคัญทางการทหารนั้นไม่เพียงพอที่จะทำลายเครือข่ายการต่อต้านในระดับโครงสร้าง
นอกจากนี้ อิสราเอลยังล้มเหลวในการคำนึงถึงปัจจัยทางการเมืองและสังคมของภูมิภาคนี้ที่ซับซ้อนเกินกว่าที่จะถูกควบคุมได้ผ่านการใช้กำลังทางการทหารเพียงอย่างเดียว กลุ่มต่อต้านในตะวันออกกลางมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับประชาชน และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลในระดับภูมิภาค ซึ่งทำให้ความพยายามที่จะล้มล้างพลังของกลุ่มต่อต้านยิ่งทวีความซับซ้อนขึ้น
ปฏิบัติการคำสัญญาที่เป็นจริง 2: การพลิกเกมของกลุ่มต่อต้าน
การเปิดตัวปฏิบัติการ “คำสัญญาที่เป็นจริง 2” โดยกองกำลัง IRGC เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความล้มเหลวของอิสราเอลในเชิงยุทธศาสตร์ นับตั้งแต่การปฏิบัติการครั้งนี้ ประสิทธิภาพของกลุ่มต่อต้านในตะวันออกกลางก็ปรากฏให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของความแม่นยำและการเตรียมพร้อมด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของฝ่ายต่อต้าน
หนึ่งในจุดเด่นของปฏิบัติการนี้คือ การที่ขีปนาวุธมากกว่า 90% ของ IRGC ได้พุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ในอิสราเอลอย่างแม่นยำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มศักยภาพด้านยุทธวิธีและเทคโนโลยีของกลุ่มต่อต้าน ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ได้จำกัดแค่ผลทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบทางจิตวิทยาต่ออิสราเอลและสาธารณชนในระดับนานาชาติด้วย
ความแตกต่างเชิงยุทธศาสตร์กับการโจมตีครั้งก่อน
การเปรียบเทียบปฏิบัติการ “คำสัญญาที่เป็นจริง 2” กับการโจมตีก่อนหน้านี้ของกลุ่มต่อต้าน ชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าเชิงยุทธศาสตร์ในหลายด้าน:
- ความแม่นยำในการโจมตี: ขีปนาวุธในปฏิบัติการนี้มีความแม่นยำในการทำลายเป้าหมายถึง 90% ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและความพร้อมในการปฏิบัติการที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ๆ
- ขอบเขตของการปฏิบัติการ: ปฏิบัติการในครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยมุ่งโจมตีหลายพื้นที่ในอิสราเอล ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงความสามารถของฝ่ายต่อต้านในการขยายขอบเขตของการโจมตี
- การโจมตีที่สร้างผลกระทบทางจิตวิทยา: ปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการตอบโต้ทางทหารเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่ออิสราเอลและสังคมโลก ซึ่งเป็นการเน้นให้เห็นว่าฝ่ายต่อต้านยังคงมีความสามารถในการตอบโต้เชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
บทสรุป: อนาคตของระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง
การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า อิสราเอลกำลังเผชิญกับความท้าทายในการสร้างระเบียบใหม่ในตะวันออกกลางผ่านการใช้กำลังทางทหาร ความพยายามในการลอบสังหารผู้นำฝ่ายต่อต้านและการใช้วิธีการทางทหารไม่ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องการ เนื่องจากกลุ่มต่อต้านมีการพัฒนาและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติการ “คำสัญญาที่เป็นจริง 2” เป็นการย้ำเตือนถึงอำนาจของฝ่ายต่อต้านในภูมิภาคนี้ และเป็นการส่งสัญญาณให้อิสราเอลรู้ว่า “สถาปนิก” ของระเบียบใหม่ในตะวันออกกลางนั้นคือกลุ่มต่อต้าน ไม่ใช่อิสราเอล
หากอิสราเอลยังคงใช้วิธีการเดิมและไม่ปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงในเชิงภูมิยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลาง การเผชิญหน้ากับกลุ่มต่อต้านอาจกลายเป็นปัญหาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต