ในชีวิตสังคมของมนุษย์ การมีปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับผู้อื่นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม หนึ่งในหลักการสำคัญคือการ “ทำความดีและเมตตา” ท่านอิมามอาลี (อ.) ได้กล่าวว่า “การหวงความดีของคุณจะทำให้เพื่อนของคุณไปคบหาคนอื่น” ซึ่งหมายความว่า หากเราไม่แสดงความเมตตาหรือช่วยเหลือคนรอบข้าง ความสัมพันธ์นั้นอาจห่างเหินและเปลี่ยนแปลงไป
ท่านอิมามอาลี (อ.) ต้องการเตือนเราว่า การไม่ให้ความช่วยเหลือหรือแสดงน้ำใจต่อเพื่อนและคนใกล้ชิดจะทำให้พวกเขารู้สึกขาดความสำคัญและหันไปพึ่งพาหรือผูกมิตรกับคนอื่น การให้ความช่วยเหลือ หรือ “ความดี” ในที่นี้ อาจหมายถึงความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งด้านการเงิน การสนับสนุนทางใจ หรือแม้กระทั่งการแสดงความห่วงใยอย่างง่าย ๆ แต่เมื่อเราเลือกที่จะไม่แสดงความดีนี้ ความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดจะค่อย ๆ ห่างเหินไป
หากมองในมุมมองทางจิตวิทยาสังคม มนุษย์จะมีแนวโน้มที่จะผูกพันกับคนที่แสดงความห่วงใยหรือมีความเมตตาต่อพวกเขา หากใครสักคนรู้สึกว่าตนถูกละเลยในกลุ่มหนึ่ง ๆ พวกเขาย่อมแสวงหาความสัมพันธ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการนี้ ดังนั้น การไม่แบ่งปันความดีจึงอาจทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่เสื่อมถอยลงและเปิดโอกาสให้เกิดความผูกพันใหม่กับผู้อื่น
คำสอนของท่านอิมามอาลี (อ.) ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการแบ่งปันความดีและความเมตตาในการรักษาความสัมพันธ์ หากเราหวงความดีหรือไม่แสดงน้ำใจต่อผู้อื่น ความสัมพันธ์นั้นจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การทำความดีต่อกันจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมที่มีสุขภาพดีและมีความสมดุล