ในคำกล่าวของท่านอิมามอะลี (อ) มีแง่คิดลึกซึ้งที่เราควรพิจารณาอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเรียนรู้และการนำความรู้ไปใช้ ท่านกล่าวว่า “เมื่อได้ยินข่าวสารใด ๆ ให้พิจารณามันด้วยปัญญาอย่างผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่แค่ผู้เล่าเรื่อง เพราะผู้ที่ถ่ายทอดความรู้มีมาก แต่ผู้ที่นำไปใช้อย่างถูกต้องมีน้อย” (นะฮญุ้ลบะลาเฆาะฮ์, ฮิกมะฮ์ 98)
คำสอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ปัญญาในการนำความรู้ที่เราได้รับไปปฏิบัติ ไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำหรือเล่าสู่กันฟัง การฟังหรือรับรู้ความรู้ไม่เพียงพอหากไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาตนเอง ท่านอิมามอะลีได้เน้นย้ำว่าความรู้จะมีคุณค่าเมื่อมันถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยข้อมูลและข่าวสาร เรามักถูกดึงดูดด้วยการเรียนรู้ใหม่ๆ และการรับฟังความเห็นของผู้อื่น แต่คำถามสำคัญคือ “เราได้นำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่?” เราเป็นแค่ผู้ฟังหรือเป็นผู้ที่นำความรู้นั้นมาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองและสังคม?
สิ่งที่ท่านอิมามอะลี (อ) ชี้แนะเป็นการเตือนให้เราระมัดระวังเกี่ยวกับการสะสมความรู้แบบผิวเผิน การรู้มากอาจเป็นประโยชน์เฉพาะเมื่อมันถูกนำไปใช้อย่างชาญฉลาด ความรู้ที่ปราศจากการปฏิบัติเปรียบเสมือนอาหารที่ไม่ถูกย่อย เราอาจรู้มาก แต่ถ้าไม่สามารถนำไปใช้ในการสร้างประโยชน์ให้ตนเองและผู้อื่น ความรู้นั้นก็ไร้ค่า
ยิ่งไปกว่านั้น การนำความรู้ไปใช้อย่างมีปัญญาช่วยในการพัฒนาคุณธรรมและจิตใจของเรา การเรียนรู้โดยไม่ปฏิบัติอาจทำให้เราหลงอยู่ในความเย่อหยิ่งหรือความเข้าใจที่ผิดพลาด แต่การเรียนรู้ที่นำไปสู่การปฏิบัติเป็นเส้นทางสู่ความบริสุทธิ์ของจิตใจและการเติบโตทางจิตวิญญาณ
ดังนั้น ไม่ว่าความรู้ที่เราได้รับจะมาจากหนังสือ คำสอนของครู หรือจากประสบการณ์ส่วนตัว ท่านอิมามอะลี (อ) ได้ฝากให้เราใคร่ครวญและพยายามนำความรู้นั้นไปใช้ในการพัฒนาชีวิตของตนเองและสังคม ข้อคิดนี้ยังเชื่อมโยงกับหลักการของอิสลามที่เน้นย้ำถึงการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ การรู้โดยไม่มีการกระทำไม่ได้ทำให้เราเป็นคนดีหรือเข้าใกล้กับความจริงได้ การใช้ความรู้ด้วยปัญญาคือกุญแจสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
บทความนี้อิงจากคำสอนของอิมามอะลี และการเขียนนี้พอดีกับ 1.5 หน้ากระดาษ A4 ตามที่คุณต้องการ