ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวว่า “โลกนี้เป็นที่สำหรับเดินทางผ่าน ไม่ใช่สถานที่ที่คงอยู่ถาวร” ซึ่งสะท้อนถึงการรับรู้ความชั่วคราวของโลกนี้ ความคิดเช่นนี้มีรากฐานที่สำคัญในคำสอนของอิสลามและบทเรียนของเหล่าศาสดาและอิมาม ผู้ชี้นำมนุษย์ให้เข้าใจถึงธรรมชาติของชีวิตในโลกนี้อย่างแท้จริง
โลกไม่ใช่ที่พักพิงของมนุษย์ แต่เป็นเพียงดินแดนที่เราผ่านไป เพื่อเตรียมตัวและสร้างตนสำหรับการกลับไปพบกับอัลลอฮ์ในโลกหน้า ผู้คนในโลกนี้มีสองประเภทตามที่ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวไว้: คนที่ขายตัวเองและตกอยู่ในความหายนะ กับคนที่ซื้อตัวเองและปลดปล่อยตนให้เป็นอิสระ
คนที่ขายตนเองและตกอยู่ในความหายนะ
คนกลุ่มนี้คือคนที่หลงใหลในความลุ่มหลงของโลกนี้จนลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของชีวิต เขายอมแลกความสุขชั่วคราวและสิ่งล่อลวงในชีวิตเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง โดยไม่ใส่ใจต่อผลที่ตามมาในวันกิยามะฮ์ การ “ขายตนเอง” หมายถึงการยอมรับชะตากรรมของตนให้ตกเป็นทาสของอารมณ์ ความโลภ และความหลงไหลในสิ่งที่ไม่ถาวร คนเหล่านี้ย่อมพบกับการสูญเสียทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
คนที่ซื้อตัวเองและปลดปล่อยตนเป็นอิสระ
ในทางตรงกันข้าม คนที่ “ซื้อตัวเอง” คือคนที่เข้าใจความสำคัญของการทำดีในโลกนี้เพื่อเตรียมตัวสำหรับโลกหน้า พวกเขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยตนจากการตกเป็นทาสของโลกวัตถุ โดยพยายามแสวงหาความพึงพอใจของอัลลอฮ์ผ่านการทำสิ่งที่ดี การปฏิบัติตามคำสอนของศาสดาและอิมาม และการละเว้นจากสิ่งที่เป็นบาป การกระทำเช่นนี้ช่วยให้พวกเขาเป็นอิสระจากพันธะของโลกและนำพาไปสู่ความรอดในชีวิตนิรันดร์
คำกล่าวของท่านอิมามอะลี (อ) เป็นการเตือนสติให้เราตระหนักว่าโลกนี้เป็นเพียงทางผ่านและเราต้องไม่หลงใหลในสิ่งที่ไม่ถาวร ทุกสิ่งที่เรากระทำในโลกนี้จะส่งผลต่อชีวิตในวันกิยามะฮ์ ความท้าทายที่แท้จริงของชีวิตคือการเลือกทางเดินที่ถูกต้อง ด้วยความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของการดำรงชีวิตและจุดมุ่งหมายสูงสุด