ความอิสระเสรี (อิสรภาพ) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างแสวงหา ในฐานะของบุคคลที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นอิสระ มนุษย์ทุกคนต่างต้องการใช้ชีวิตโดยปราศจากพันธนาการทั้งปวง แต่คำถามสำคัญคือ “มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความอิสระเสรีหรือไม่? และขอบเขตของอิสรภาพควรจะเป็นอย่างไร?”
อิมามอะลี (อ) ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้อย่างชัดเจน ในคำตอบของท่าน อิมามอะลี (อ) ชี้ให้เห็นว่า ความอิสระเสรีคือของขวัญที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้แก่มนุษย์ เพื่อให้เขาดำรงชีวิตด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม ท่านก็เตือนว่า แม้พระองค์จะมอบอิสระเสรีให้กับมนุษย์ แต่ก็ไม่ควรยอมเป็นบ่าวหรือยอมตนให้ต่ำต้อยต่อผู้อื่น นั่นคือ ความเป็นอิสระเสรีที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงเพียงการปราศจากการควบคุมจากภายนอก แต่เป็นการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองในทุกสถานการณ์
ท่านอิมามอะลี (อ) ยังเน้นถึงคุณค่าอันสูงส่งของมนุษย์ โดยกล่าวว่า มูลค่าของมนุษย์นั้นเปรียบเทียบได้กับสรวงสวรรค์เท่านั้น มนุษย์ไม่ควรยอมขายศักดิ์ศรีของตนต่อสิ่งใดที่ต่ำต้อยไปจากนี้ นี่คือการเรียกร้องให้ทุกคนรู้คุณค่าของตนเอง และไม่ยอมเป็นบ่าวแห่งสิ่งใดที่ไม่ได้มอบคุณค่าและเกียรติยศให้แก่ตน
นอกจากนี้ อิมามอะลี (อ) ยังเตือนว่า ความอิสระเสรีที่ไร้การควบคุมอาจนำพามาซึ่งจุดจบที่เลวร้าย ผู้ที่คิดว่าความอิสระหมายถึงการทำตามความปรารถนาทั้งหมดของตนเองโดยไม่มีการยับยั้งใจ จะตกอยู่ในสภาวะที่น่าเศร้าและเสื่อมทราม เพราะการไร้บ่วงคล้องนั้นไม่ใช่การปล่อยตัวตามใจปรารถนา แต่เป็นการปลดปล่อยจากกิเลศตัณหาและอารมณ์ฝ่ายต่ำต่างหาก
สุดท้าย ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวถึงนิยามของเสรีชนตัวจริง นั่นคือผู้ที่สามารถปลดปล่อยตนเองจากการเป็นเชลยของตัณหาราคะ ผู้ที่สามารถควบคุมและละทิ้งกิเลศตัณหาของตนเองอย่างสิ้นเชิงคือผู้ที่ได้สัมผัสกับอิสรภาพและเสรีภาพที่แท้จริง ส่วนผู้ที่ยังคงหลงใหลในโลกวัตถุและความสุขชั่วคราว กลับขายตนเองให้กับสิ่งเหล่านั้น และจะไม่มีวันได้พบกับอิสรภาพอย่างแท้จริงจนกว่าจะหลุดพ้นจากการเป็นบ่าวของตัณหาราคะ
ในทัศนะของอิมามอะลี (อ) ความอิสระเสรีไม่ได้เป็นเพียงแค่การปราศจากการบังคับจากภายนอกเท่านั้น แต่เป็นการใช้ชีวิตด้วยเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และการหลุดพ้นจากพันธนาการแห่งกิเลศตัณหาอย่างแท้จริง มนุษย์ควรเข้าใจคุณค่าของตนเอง และไม่ยอมตกเป็นบ่าวแห่งสิ่งใดที่ไม่คู่ควรกับเกียรติยศของตน