ในบริบทของความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง สถานการณ์ในซีเรียและเลบานอนได้รับความสนใจจากกลุ่มพันธมิตรต่างๆ โดยเฉพาะเส้นสาย “ฮีบรู-อาหรับ-ตะวันตก-ตุรกี” ที่ถูกกล่าวถึงว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างความวุ่นวายในซีเรียเพื่อบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ การวิเคราะห์แผนการของฝ่ายอิสราเอลและพันธมิตรในการโจมตีเลบานอนและซีเรียสามารถช่วยให้เข้าใจถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางการตอบโต้ของฝ่ายต้านทาน
แผนการโจมตีและเป้าหมายทางยุทธศาสตร์
1. การโจมตีจากหลายทิศทาง
แผนการโจมตีของอิสราเอลและพันธมิตรประกอบด้วยหลายระลอก ได้แก่:
• การใช้กองกำลังรับจ้าง (เช่น กลุ่มซัลฟี) เพื่อบุกยึดเมืองฮอมส์ในซีเรีย
• การเคลื่อนทัพเข้าสู่เลบานอนจากจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เช่น ภูเขาเชค (Jabal al-Sheikh)
• การสร้างเข็มขัดป้องกันจากเมืองกุนัยตรา (Quneitra) จนถึงภูเขาเชคใกล้กับกรุงดามัสกัส
2. การเปิดแนวรบในพื้นที่สำคัญ
หากกลุ่มติดอาวุธอย่าง “ตะห์รีร์ อัล-ชาม” ล้มเหลวในการยึดฮอมส์ อิสราเอลและพันธมิตรอาจเปลี่ยนกลยุทธ์ไปมุ่งเน้นที่:
• สร้างความวุ่นวายในจังหวัดซุเวดา (As-Suwayda) และดารา (Daraa) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย
• ใช้จังหวัดเหล่านี้เป็นฐานสำหรับการบุกจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย
3. เป้าหมายระยะยาว
การสร้างความวุ่นวายในซีเรียและเลบานอนเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายใหญ่เพื่อขัดขวางอิทธิพลของอิหร่าน รัสเซีย และกลุ่มต้านทานในภูมิภาค
ความท้าทายและบทบาทของอิหร่าน รัสเซีย และกลุ่มต้านทาน
อิหร่าน รัสเซีย และกลุ่มต้านทาน เช่น ฮิซบอลเลาะห์ มีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้แผนการดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ:
• การป้องกันพื้นที่สำคัญ: ต้องเฝ้าระวังพื้นที่จังหวัดซุเวดาและดาราอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นฐานปฏิบัติการของอิสราเอล
• การตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์: แผน “วะอ์ด อัศศอดิก 3” ของอิหร่าน อาจเป็นกลไกสำคัญในการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
สถานการณ์ในซีเรียและเลบานอนสะท้อนให้เห็นถึงการปะทะกันของผลประโยชน์ในระดับภูมิภาค การวิเคราะห์แผนการของเส้นสาย “ฮีบรู-อาหรับ-ตะวันตก-ตุรกี” ช่วยให้เข้าใจถึงภัยคุกคามที่ซับซ้อนในภูมิภาคนี้ ฝ่ายต้านทานจำเป็นต้องมีการวางแผนและตอบโต้ที่ชาญฉลาด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนและรักษาเสถียรภาพในตะวันออกกลางในระยะยาว