Site icon

การต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่

e2dfde84-607d-45e3-b18b-c6dbee23cd41.jpg

การขอความช่วยเหลือเพื่อขจัดความอยุติธรรม: หลักการในอิสลามและบทเรียนจากโองการในอัลกุรอาน

การขอความช่วยเหลือหลังจากถูกกดขี่เป็นสิ่งที่ศาสนาอิสลามให้ความสำคัญอย่างมาก และเป็นสิทธิ์ที่พระเจ้าได้ประทานไว้แก่ผู้ที่ถูกกดขี่ ในอัลกุรอาน โองการที่ 41 ของซูเราะห์ชูรอ กล่าวว่า “และผู้ที่แก้แค้นหลังจากที่ถูกข่มเหง พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ถูกตำหนิใดๆ” (ชูรอ: 41) โองการนี้เน้นถึงสิทธิของผู้ถูกกดขี่ในการขอความช่วยเหลือและป้องกันตนเองจากผู้ที่ข่มเหง ไม่มีใครสามารถขัดขวางพวกเขาจากการเรียกร้องความยุติธรรมได้ และการกล่าวโทษหรือห้ามผู้ที่เรียกร้องสิทธิเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในหลักศาสนา

จากการวิเคราะห์เนื้อหาของโองการนี้ อิสลามให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมและการปกป้องผู้ถูกกดขี่ในทุกกรณี โดยหลักพื้นฐานก็คือ ผู้ที่ถูกข่มเหงมีสิทธิ์ที่จะหาทางแก้แค้นหรือขอความช่วยเหลือจากสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ผิดศีลธรรม เพราะการตอบโต้การกดขี่เป็นสิ่งที่สังคมที่รักความยุติธรรมควรส่งเสริม นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกกดขี่ไม่ควรถูกตำหนิหรือลงโทษ เพราะพวกเขาเพียงต้องการคืนความยุติธรรมให้กับตนเอง

บทเรียนจากการตีความในฮะดีษ: การเชื่อมโยงกับการปรากฏตัวของอิมามมะห์ดี

การตีความโองการนี้ในบางฮะดีษของศาสนาอิสลาม ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมของท่านอิมามมะห์ดี (อ.จล.) ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่ตามคำพยากรณ์จะปรากฏตัวในยุคสุดท้ายเพื่อทำลายความอยุติธรรมและความกดขี่ทั่วโลก การยืนหยัดของท่านเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขอความช่วยเหลือของผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก การปรากฏตัวของอิมามมะห์ดีจึงเป็นการตอกย้ำถึงสิทธิ์ของผู้ที่ถูกกดขี่ในการขอความช่วยเหลือและการได้รับความช่วยเหลือจากผู้รักความยุติธรรม

ในทางอิสลาม เชื่อกันว่าการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นหน้าที่ทางศีลธรรมของผู้ที่ตื่นรู้ทุกคน เมื่อมีคนถูกรังแก สังคมที่รักความยุติธรรมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมนี้ ไม่เพียงเป็นสิ่งที่ผู้ถูกกดขี่ควรทำ แต่ยังเป็นสิ่งที่ผู้อื่นควรสนับสนุนด้วย ดังที่อิมามมะห์ดีจะขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ยืนเคียงข้างความยุติธรรมในยุคสุดท้าย

การเชื่อมโยงสู่ปัจจุบัน: หน้าที่ของมนุษย์ในการช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่

หลักคำสอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นในยุคไหนก็ตาม การยืนหยัดข้างผู้ที่ถูกกดขี่เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความรักความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถูกกดขี่ในครอบครัว สังคม หรือในระดับโลก การยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมที่สังคมควรมี นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกกดขี่ก็ไม่ควรถูกมองว่าผิดหรือผิดศีลธรรมในการขอความช่วยเหลือ เพราะในทุกศาสนาและทุกวัฒนธรรม ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและเรียกร้อง

ศาสนาอิสลามจึงสอนให้เราทุกคนยืนเคียงข้างผู้ถูกกดขี่และให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ในบางกรณี การนิ่งเงียบต่อความอยุติธรรมอาจถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนผู้กดขี่โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การพูดออกมาและยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในสังคมปัจจุบัน

 

จากโองการในอัลกุรอานและฮะดีษที่เกี่ยวข้อง เราสามารถเรียนรู้ได้ว่าการขอความช่วยเหลือหลังจากถูกกดขี่เป็นสิทธิ์ที่อิสลามได้มอบไว้แก่ทุกคน และการช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่เป็นหน้าที่ของสังคม ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่สังคมที่ดีควรยึดถือ และเราทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมในทุกระดับ หวังว่าการปรากฏของอิมามมะห์ดีจะนำพาความยุติธรรมกลับมาสู่โลกในเร็ววัน

Exit mobile version