Site icon

อิหร่าน : พร้อมโจมตีไซออนิสต์ซ้ำหากจำเป็น

วิเคราะห์คำพูดของผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามในพิธีละหมาดวันศุกร์: การโจมตีต่อระบอบไซออนิสต์จะเกิดขึ้นอีกหากจำเป็น

จากการสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศกับสำนักข่าวทัสนีม ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวถึงหลักการทางศาสนาและกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันตัวของประชาชาติอิสลาม โดยเจตนาจะส่งสัญญาณให้กับชาติที่สนับสนุนระบอบไซออนิสต์รับรู้ว่าไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีกต่อไป

1. หลักการทางศาสนาและกฎหมายระหว่างประเทศในการป้องกันตัว
คำพูดของผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึงสองแนวทางหลัก คือหลักการทางศาสนาและหลักการระหว่างประเทศในการป้องกันตัวเองจากการรุกราน โดยหลักศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับมุสลิมที่ปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ซึ่งถือเป็นข้อบังคับในการป้องกันตัว ส่วนหลักการกฎหมายระหว่างประเทศนั้นได้อ้างอิงถึงมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งยอมรับสิทธิ์ในการป้องกันตัวของประเทศและประชาชนที่ถูกโจมตี

2. การละเลยหน้าที่ของสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงในกรณีอาชญากรรมของอิสราเอล
สหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงได้ถูกวิจารณ์ว่าละเลยหน้าที่ในการดำเนินการต่ออาชญากรรมของอิสราเอล ถึงแม้กฎบัตรสหประชาชาติระบุไว้ว่าหากประเทศใดที่คุกคามความปลอดภัยของโลกหรือก่อให้เกิดความไม่มั่นคง สหประชาชาติต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาความสงบสุข

3. การตัดสินใจทางยุทธศาสตร์และความสำคัญของผลประโยชน์แห่งชาติ
ผู้นำสูงสุดยังกล่าวย้ำว่า การโจมตีของอิหร่านนั้นดำเนินการด้วยความรอบคอบ ไม่รีบร้อน และการตัดสินใจเป็นไปตามการวิเคราะห์ทางการเมืองและทหารอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นมีการวางแผนที่แม่นยำและสอดคล้องกับผลประโยชน์แห่งชาติ

4. การเตือนถึงการปฏิบัติซ้ำหากจำเป็น
สุดท้าย ผู้นำสูงสุดยังได้เตือนถึงความพร้อมของอิหร่านในการดำเนินการโจมตีเพิ่มเติมหากจำเป็น โดยเน้นว่าการปฏิบัติงานของอิหร่านไม่เร่งรีบเกินไป แต่จะทำตามความเหมาะสมและพิจารณาผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ

คำพูดของผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามในครั้งนี้สะท้อนถึงความพร้อมของอิหร่านในการป้องกันตัวและการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงเตือนว่า หากสถานการณ์ยังคงบีบคั้น อิหร่านจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการโจมตีอีกครั้ง

Exit mobile version