ศาสดา ซุลกิฟล์ 

In เด็ก

หนึ่งในบรรดาศาสดาที่ถูกกล่าวถึงในกุรอาน คือ ท่านศาสดาซุลกิฟล์  ชื่อท่านถูกกล่าวถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในโองการที่ 85 ซูเราะฮ์ อัมบิยาอ์ ที่กล่าวว่า :  

และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอิสมาอีลและอิดรีส และซัลกิฟลิ แต่ละคนอยุ่ในหมู่ผู้อดทนขันติ 

และในอายะฮ์ที่ 48 ซูเราะฮ์ ศอด ที่กล่าวว่า  : 

และจงรำลึกถึงอิสมาอีล และอัลยะซะอฺ และซัลกิฟลิ และทุกคนอยู่ในหมู่ผู้ดีเลิศ 

เรื่องราวเกี่ยวกับท่านศาสดา ซุลกิฟล์ นักวิชาการมีทัศนะที่แตกต่างกันออกไป แต่ประเด็นที่เป็นที่บรรดานักวิชาการยอมรับกันทั้งหมดคือ ท่านศาสดา ซุลกิฟล์ เป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าชื่อของท่านถูกกล่าวไว้ในกุรอานถึงสองครั้งด้วยกัน

ตามรายงานฮะดิษกล่าวว่า ท่านศาสดาซุลกิฟล์ เป็นบุตรของท่านศาสดา อัยยูบ ซึ่งชื่อเดิมของท่านคือ บาชีร อิบนิ อัยยูบ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันอยู่ในประเทศซีเรีย ท่านมีอายุ 95 ปี มีบุตรชาย 1 คนชื่ออับดาน ซึ่งท่านได้แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของท่านหลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตลง หลังจากสมัยของท่านศาสดาซุลกิฟล์ อัลลอฮ์ทรงส่งท่านศาสดาชุอัยบ์ลงมาเป็นผู้เผยแพร่สืบต่อมา

คุณลักษณะพิเศษสามประการของท่านศาสดาซุลกิฟล์ 

มีรายงานฮะดิษกล่าวว่า มีศาสนทูตท่านหนึ่งมีนามว่า อัลยะสะอ์ ได้กล่าวกับกลุ่มชนของตนว่า : ฉันมีความหวังว่า จะให้บุคคลหนึ่งเป็นตัวแทนฉันแต่ฉันจะต้องพิจารณก่อนว่าเขาจะปฏิตัวกับกลุ่มชนของฉันอย่างไร (หากเขาปฏิบัติดีต่อกลุ่มชนของฉัน ฉันจะแต่งตั้งให้เขาเป็นตัวแทนหลังจากฉันทันที)  ท่านได้เรียกรวบกลุ่มชนของท่านแล้วประกาศว่า : ใครก็ตามที่สัญญาว่าจะปฏิบัติในสามสิ่งที่ฉันจะกล่าวต่อไปนี้ ฉันจะแต่งตั้งให้เขาเป็นตัวแทนหลังจากฉันทันที สามสิ่งดังกล่าวนั้นก็คือ 

  1. ให้ถือศิลอดในเวลากลางวัน
  2. ให้ทำการเคารพภักดีพระเจ้าในเวลากลางคืน
  3. อย่าโกรธและโมโห

มีเด็กหนุ่มได้ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า : ฉันสัญญาว่าจะปฏิบัติในสิ่งสามประการดังกล่าว 

ท่านศาสดาอัลยะสะอ์ไม่ได้ให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มคนดังกล่าว ท่านยังกล่าวถามกลุ่มชนของท่านเหมือนเดิมว่ามีใครพร้อมที่จะสัญญาที่จะปฏิบัติในสิ่งสามประการนั้นใหม เด็กหนุ่มคนดังกล่าวก็ลุกขึ้นมาตอบอีก ท่านศาสดาอัลยะสะอ์ก็ไม่ได้สนใจเด็กหนุ่มคนนั้น กล่าวซ้ำเป็นครั้งที่สามแต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาตอบรับคำเรียกร้องของท่านศาสดาอัลยะสะอ์มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดิมเท่านั้น 

หลังจากนั้นท่านศาสดาอัลยะสะอ์จึงได้แต่งตั้งให้เด็กคนนั้นเป็นตัวแทนหลังจากท่าน  ต่อมาอัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งให้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวเป็นศาสนทูต เด็กหนุ่มที่กล่าวถึงนั้นก็คือท่านศาสดาซุลกิฟล์นั่นเอง ท่านได้ปฏิบัติในสามสิ่งดังกล่าวจึงได้ชื่อว่า ซุลกิฟล์ (ผู้รักษาสัญญา) 

 

You may also read!

ความรู้ที่แท้จริง

รายงานจากท่านอิมามมูซากาซิมว่า เมื่อท่านศาสนทูตเดินเข้ามัสยิดเห็นคนกำลังนั่งล้อมชายคนหนึ่งอยู่ ท่านศาสนทูตถามพวกเขาว่า เกิดอะไรขึ้นหรือ พวกเขากล่าวตอบว่า ชายคนนี้คือ อัลลามะฮ์ ท่านศาสนทูตกล่าวถามว่า อัลลามะฮ์ คืออะไร ? บรรดาสาวกกล่าวตอบว่า เขาคือผู้รู้มากที่สุดในเรื่องเชื้อสายของชนชาวอาหรับ รู้ความเป็นมาของคนอาหรับในสมัยญาฮิลียะฮ์อีกทั้งรู้เรื่องบทกวีของชาวอาหรับเป็นอย่างดีด้วย ท่านศาสดามุฮัมมัดกล่าวว่า เหล่านี้คือศาสตร์ที่ไม่ได้ทำให้ผู้ไม่รู้เสียประโยชน์แต่อย่างใด หลังจากนั้นท่านศาสดากล่าวต่อว่า แท้จริงความรู้มีสามสิ่งด้วยกัน รู้โองการที่ชัดแจ้ง

Read More...

 อิมามอาลีกับความสมถะ

ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวกับท่านอิมามอะลีว่า (more…)

Read More...

คนมีปมด้อย

อิมาม ซอดิก (อ) กล่าวว่า ما مِنْ رَجُل تَجَبَّرَ أَؤ تَکَبَّرَ إلاّ لِذِلَّه یَجِدُها قِی نَفْسِهِ “ไม่มีคนใดที่แสดงความโอ้อวดและแสดงตนเหนือผู้อื่น นอกเสียจากว่าเขาพบปมด้อยที่มีในตัวของเขาเอง คำอธิบาย  มีผลสำรวจและคำยืนยันจากนักจิตวิทยาว่า ต้นตอของการโอ้อวดและการยกตนเหนือกว่าผู้อื่นมาจากปมด้อย  เป็นปมด้อยที่ผู้ที่ประสพกับปัญหาทางจิตนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน  เพื่อเป็นการชดเชยและปกปิดปมด้อยของตัวเองจึงแสดงตนว่าเหนือกว่าผู้อื่นซึ่งถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจยิ่ง 

Read More...

Leave a reply:

Your email address will not be published.

Mobile Sliding Menu